เกี่ยวกับ LensSeed เลนส์มือหมุน

ไหน ๆ ก็ทำเว็ปขึ้นมาแล้วก็เลยคิดว่าทำให้มันดูดีหน่อย ประจวบเหมาะกับชอบเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่เด็ก เลยได้มีโอกาสทำเป็นเวปไซด์นี้ขึ้นมา ที่จริงเดี๋ยวนี้ทำเว็ปไซด์ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่เรื่อง online marketting นี่กลับยากขึ้นทุกวัน hahaha... ของอย่างนี้ไม่ลองไม่รู้
          ที่จริงก่อนหน้านั้น ก็มีทำแผนธุรกิจเกี่ยวกับเวปไซด์นี้มาก่อน ทำวิจัยทางการตลาดและออกแบบรูปแบบบริการต่าง ๆ เหตุที่ทำสิ่งเหล่านี้ก็เพื่อต้องการศึกษาความต้องการของลูกค้า จากนั้นนำมาออกแบบผสมผสานกับเทคโนโลยี IT ที่สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ดีดีให้กับนักเล่นเลนส์มือหมุนอย่างเรา ๆ

ประมาณปี 2009 เดือนกรกฎาคม มีเพื่อนคนนึงบอกว่า กล้อง Mirrorless ที่ใช้อยู่ตอนนั้น สามารถใชกับเลนส์กล้องฟิลม์ (หรือ เลนส์มือหมุน) ได้ ตอนแรกก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ จนพอมีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อนคนนั้น เพื่อนก็เอาเลนส์มือหมุนมาให้ลองถ่ายดู
          ถ่ายครั้งแรกด้วยตัวเองก็ไม่ได้ความอะไรแน่นอน เพราะเลนส์มือหมุนต้องถ่ายด้วย Mode Manual แล้วก็ไม่เคยฝึกใช้โหมดนี้เลยทั้ง ๆ ที่มีโหมดนี้อยู่ในกล้องตัวเอง แต่พอเพื่อนหยิบไปถ่ายแล้วเอารูปที่ถ่ายเสร็จมาให้ดูเท่านั้นแหละ ก็เลยเข้าใจว่า เลนส์กล้องฟิลม์พวกนี้ มันมีศักยภาพที่สามารถเทียบเคียงกับเลนส์ digital ปัจจุบัน แล้วเมื่อนำมาต่อกับตัวแปลง (Lens Adapters) มันสามารถช่วยพื่มศักยภาพในการถ่ายภาพโดยรวมขึ้นได้โดยใช้เงินน้อยกว่า 5 - 10 เท่าเมื่อเทียบกับเลนส์ดิจิติลในปัจจุบัน เลยไปหาข้อมูลและสุดท้ายก็ได้เลนส์มือหมุนที่เค้าบอกกันว่าดีอันแรกจาก E-Bay เหมือนรูปข้างบนนี้
          พอของมาส่งปุ๊บก็ดีใจมาก แต่พอหยิบของออกมาจากกล่องก็ต้องพบกับความแปลกใจ ทำไมมันหมุนไม่ได้ แล้วมัน Focusได้ยังไง มีบางอย่างหมุนได้แต่เป็นการปรับรูรับแสง ก็ไอ้เลนส์ที่ซื้อมามันเป็นเลนส์รุ่นที่มีกลไกบังคับการปรับ focus จากตัวกล้องเลย ซึ่งต่างจากเลนส์มือหมุนส่วนมากเพราะมีกลไกการปรับ focus ที่ตัวเลนส์ ก็เลยถึงบางอ้อแล้วก็อุทานว่า "...พลาดและ ...ว่าแล้วทำไมอันนี้ขายถูกจัง..." ก็เลยต้องเสียเงินซื้อมาอีกอัน
          หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้เลนส์มือหมุนมาอีกอันแต่ก็พลาดอีกเพราะเข้าใจผิดว่า Mount "Contax" กับ "Contarex" มันคือสิ่งเดียวกัน ที่จริงชื่อมันก็บอกอยู่แล้วแต่คงเป็นเพราะข้อมูลที่ได้รับมีมากจนเกินไปทำให้เกิดความสับสน แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นคนละอย่างกัน ซื้อมาสองครั้งรวมค่าส่งจากอเมริกาก็เกือบสี่ห้าพันแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้ พอจะขายคืนก็ไม่รู้จะไปขายใคร ขายได้แต่ก็ขาดทุนยับเยิน พอมาเจอค่าส่งไปลูกค้าต่างประเทศนี่เหมือนโดนป๊อกเก้าสองเด้ง สุดท้ายก็ได้ Helios 55 2.0 มาใช้จากเวปบอร์ดในเมืองไทย